จากลพบุรี ถึง หนองคาย

จากลพบุรี ถึง หนองคาย

การเดินทางในครั้งนี้ขอเริ่มต้นจากบ้าน ที่บ้านหมี่ ตอนแรกตั้งใจจะกลับบ้านช่วงวันหยุด แต่พอถึงบ้านปรากฎว่าแม่อยากไปกราบพิธีของหลวงตามหาบัว ที่อุดรธานี เลยได้มีโอกาสไปอีสานซึ่งผมไม่ค่อยได้ไปบ่อยนัก

การเดินทางเริ่มต้นที่บ้าน คือบ้านหมี่ ลพบุรี ออกจากบ้านตั้งแต่เช้าตอนตีห้า ไปทางอำเภอโคกสำโรง ขับรถโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 205 ไปทางชัยบาดาล จากนั้นก็จะเข้าชัยภูมิโดยใช้เส้นทาง 201 ไปเรื่อยๆ จนเข้าขอนแก่ และไปทางเส้นทางสาย 2 เพื่อไปวัดบ้านตาด กราบหลวงตามหาบัวก่อน จึงจะไปหนองคายต่อ ระยะทางก็ประมาณ 605 กิโลเมตรได้

วันนี้มาถึงบ้านพอดีตรงกับช่วงที่มีจัดงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์เลย ซึ่งปีนี้จัดว้นที่ 16-22 กุมภา วันนี้เลยได้ไปเดินเที่ยวงานลพบุรีกับแม่ก่อน ไปหนองคายในวันพรุ่งนี้

เด็กน้อยแต่งชุดไทยยืนเลือกขนมอยู่ งานนี้เขาเน้นอยากให้คนลพบุรีแต่ชุดไทยทั้งเมือง

มีงานแสดงแสงเสียงภายในวังนารายณ์

มีแสดงโขนของกรมศิลป เรื่องรามเกียรติ แต่ตอนไหนจำไม่ได้

มีการจุดพรุเป็นรูปหัวใจด้วย

ระวังคนข้ามถนน..ระวังลิงข้ามถนน..ป้ายแบบนี้คงมีแต่ที่ลพบุรีละนะ

ในวันถัดมาก็เดินทางไปกราบพิธี หลวงตามหาบัวที่อุดรธานี คนเยอะมาก..

จากนั้นก็เดินทางไปที่จังหวัดหนองคายต่อ โดยหนองคายห่างจากอุดรก็ประมาณ 50 กิโลเมตร

ถึงหนองคายแล้วต้องแวะกิน แหนมเนืองร้านดัง

ร้านอยู่ติดริมแม่น้ำโขง บรรยากาศในร้านคนคึกคักมาก

มาแล้ว แหนมเนือง..อร่อยแน่..อิอิ

หลังจากกินเสร็จ ก็ออกมาเดินเล่นริมแม่น้ำโขง..บริเวณนี้นอกจากร้านอาหารเยอะแล้วยังมีโรงแรมอีกด้วย แต่ก็ไม่รู้ราคาเท่าไร

แถวนี้น่าจะนับถือพญานาค เพราะมีสํญลักษณ์ที่เป็นพญานาคหลายจุด นี่ก็ป้าย

ท่าเสด็จ

ร้านโปสการ์ด..

ไปรณีย์..

อีกมุมไว้ถ่ายรูป..จะถ่ายป้าย แต่ป้าๆไมเปิดโอกาส เลยต้องถ่ายป้ามาด้วย..

บรรยากาศภายในตลาด..

บริเวณตลาดมีอาคารทรงโบราณ

บรรยากาศ ก่อนพระอาทิตย์ตกที่ บริเวณท่าเสด็จ

ของหัตถกรรมมีขายทั่วไป

พระอาทิตย์ตกดิน บริเวณท่าเสด็จ จะมองเห็นวิวของสพานมิตรภาพไทย-ลาว

อีกมุมนึง

วันนี้พักที่นี่แหละ ที่พักติดริมแม่น้ำโขง

อยู่ใกล้สพานมิตรภาพไทย-ลาว

บรรยากาศภายในห้องหลังจากผ่านไปหนึ่งคืน

ในหนองคายจะมีรถที่เรียกว่าสกายแลปวิ่งทั่วไป

บริเวณด่านชายแดนไทย ลาว จะมีบริษัททัวรเปิดอยู่เป็นจำนวนมาก ให้บริการทัวร์ไปลาว หรือจะเช่ารถเที่ยวในลาวก็ได้

ข้บรถไปเองก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการท่องเที่ยวลาว..

ค่ารถออกด่านก็ไม่แพงมากนัก



แล้วเจอกันอีกทีที่เวียงจันท์นะครับ..

เพชรบุรี เที่ยวเสาร์ อาทิตย์

เพชรบุรี เที่ยวเสาร์ อาทิตย์

ในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์นี้ได้ไปเที่ยวเมืองที่มีคำขวัญประจำจังหวัดว่า "เขาวังคู่บ้าน ขนมหวานเมืองพระ เลิศล้ำศิลปะ แดนธรรมะ ทะเลงาม" ก็คือจังหวัดเพรชรบุรีนั่นเอง

เพชรบุรีมีที่เที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็นแนวเที่ยวภูเขา น้ำตก เดินป่า หรือไปเที่ยวทะเลยเดินเล่นชิว..ชิวบนหาดทราย..แต่ในครั้งนี้พวกเราวางแผนว่าจะไปเที่ยวภูเขากัน ที่อุทยานแห่งชาติแก่นกระจาน เป็นอุทยานที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดของประเทศไทย  มีพื้นที่ถึง  2,915  ตารางกิโลเมตร  หรือ 1.8 ล้านไร่   ได้รับการประกาศให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2524  โดยกำหนดพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำและป่าเหนือเขื่อนแก่งกระจานเป็นเขตอุทยานฯ  เป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสาย พื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานฯ เป็นภูเขาสลับซับซ้อนอยู่ในเทือกเขาตะนาวศรี สภาพภูมิประเทศเป็นป่าดิบชื้น  ยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานฯ คือยอดเขางะงันนิกยวงตอง อยู่ในเขตรอยต่อประเทศพม่าและไทย มีความสูง 1,513 เมตร รองลงมาคือยอดเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งมีความสูง 1,207 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง 

ในการเดินทางครั้งนี้พวกเราขับรถไปกันเอง โดยเริ่มต้นที่ชลบุรีในตอนเช้าวันเสาร์ ขับรถเส้นบางนา ตราดแล้วก็ไปขึ้นทางด่วนเพื่อไปออกถนนเพชรเกษม ขับไปเรื่อยๆก็จะถึงเพรชรบุรี ที่แรกที่พวกเราพักเที่ยวกันก็ เขาวัง เป็นโบราณสถานเก่าแก่คู่เมืองเพชรบุรี ตั้งอยู่บนยอดเขาใหญ่ 3 ยอด ยอดที่สูงที่สุดสูงประมาณ 95 เมตร รัชกาลที่ 4 ทรงพอพระราชหฤทัยที่จะสร้างพระราชวังสำหรับเสด็จแปรพระราชฐานขึ้นบนยอดเขาแห่งนี้ ก่อสร้างจนสำเร็จเรียบร้อยเมื่อปี พ.ศ. 2403  ทรงพระราชทานนามว่า “พระนครคีรี” แต่ชาวเมืองเพชรเรียกกันติดปากว่าเขาวัง สืบมาจนทุกวันนี้

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี( เขาวัง ) เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30–16.00 น. ค่าเข้าชม (รวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี)   ชาวไทย 20 บาท    ชาวต่างประเทศ 150 บาท

พระนครคีรี( เขาวัง ) ประกอบด้วยพระที่นั่ง  พระตำหนัก  วัด  และกลุ่มอาคารต่าง ๆ มากมาย   ส่วนใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบนีโอคลาสสิคผสมสถาปัตยกรรมจีน  ตั้งอยู่บนยอดเขาใหญ่ๆ  3  ยอดด้วยกัน

ยอดเขาด้านทิศตะวันออก   บริเวณไหล่เขาเป็นที่ตั้งของวัดมหาสมณาราม   ภายในพระอุโบสถมีภาพเขียนฝีมือขรัวอินโข่งบนผนังทั้งสี่ด้าน  เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา    ส่วนบนยอดเขาเป็นที่ตั้งของวัดพระแก้ว  เป็นวัดประจำพระราชวังพระนครคีรี 

ยอดเขากลาง  เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุจอมเพชร มีความสูง 40 เมตร  บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน จากจุดนี้สามารถมองเห็นพระที่นั่งต่าง ๆ บนยอดเขาอีก 2 ยอด  รวมทั้งทิวทัศน์ของตัวเมืองเพชรบุรีได้อีกด้วย

ภายในเขาวังจะมีร้านขายกาแฟ ซึ่งก็จะมีคนซื้อพวกชานมให้ลิงกินด้วย..อากาศร้อนน้องจ้อก็อยากกินอะไรเย็นๆบางสิ

เขาวังนี่ลิงเยอเหมือนกัน ยังไงก็ระวังของด้วยเพราะ ลิงพวกนี้ชอบขโมยของในกระเป๋า ของผมเอาโลชั่นใส่ไว้บริเวณกระเป๋ากล้อง ยังถูกขโมยไปจนได้..

หลังจากออกจากเขาวัง เราก็มาแวะที่พระรามราชนิเวศน์ (พระราชวังบ้านปืน) สถานที่ตั้งก็อยู่ในค่ายทหาร ที่นี่รัชกาลที่5 โปรดให้สร้างเป็นที่ประทับแรมในฤดูฝน สร้างแบบสถาปัตยกรรมยุโรป  ออกแบบโดยมิสเตอร์คาล เดอริง ชาวเยอรมัน เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2452 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2459  พระรามราชนิเวศน์ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00–16.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างประเทศ 50 บาท

ภายในมีสวนอยู่ตรงกลางพระราชวัง

บริเวณระเบียงชั้นสอง

ในวันนี้เราก็พักกินข้าวกลางวันกันที่นี่..นั่งเล่นกันซักพักแล้วค่อยไปต่อ

กว่าจะมาถึงแก่นกระจานก็เย็นพอดี..ไปนั่งกินข้าวบริเวณสันเขื่อนอากาศดีมาก..

เราจองรถจากทางรีสอร์ทเพื่อจะไปพะเนินทุ่งในวันพรุ่งนี้..ต้องตื่นกันแต่ตีสี่เลย..ไปตอนเช้าป่าเป็นธรรมชาติมาก อากาศเย็นดี..เมื่อคืนฝนตกมากเลยมีต้นไม้ล้มมาขวางทางรถ

จุดชมวิว วันนี้ไม่มีหมอกเลย เพราะลมแรงจัด ฝนก็ตกปอยปอย

 

ฝนพึ่งตกใหม่ๆ ทากเยอะมาก..โดนทากกัดเข้าจนได้..T-T

ลงมาจากพะเนินทุ่ง..บริเวณบ้านกร่าง ก็เห็นเขากำลังถ่ายรูปผีเสื้อกันอยู๋

หลังจากลงจากพะเนินทุ่ง พวกเราก็ได้กลับไปเก็บของและเตรียมกลับไปทางานกันต่อในวันพรุ่งนี้ เสาร์ อาทิตย์ ที่แสนสนุกก็หมดไปอย่างรวดเร็ว

เพชรบุรี, แก่นกระจาน, เที่ยวเสาร์ อาทิตย์, เที่ยวใกล้กรุง